#ChonsDo คุณติม – ชวินโรจน์ สุทธิธรรมชนะ หลานชายผู้ขยายความสุขจากก๋ง ด้วยร้าน “เมฆไอศครีม”

#ChonsDo ติม - ชวินโรจน์ สุทธิธรรมชนะ หลานชายผู้ขยายความสุขเย็น ๆ จากก๋ง ด้วยร้าน "เมฆไอศครีม"

ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรงของบ่ายวันเสาร์ พวกเราชาว #ChonsDo ที่ขอพาทุกคนไปดูว่าคนชลฯ เขาทำอะไรกัน เดินฝ่าอุณหภูมิที่เกือบแตะ 40 องศาเซลเซียส ไปยังซอยเล็ก ๆ หลังตลาดบุรีบริบาล ในตัวเมืองชลบุรี สู่จุดมุ่งหมายที่หวังจะให้ช่วยคลายร้อนอย่างร้าน “เมฆไอศครีม” ร้านไอศกรีมเก่าแก่กว่าครึ่งศตวรรษ ที่ปัจจุบันกุมบังเหียนโดย คุณติม - ชวินโรจน์ สุทธิธรรมชนะ ทายาทรุ่นที่ 3 หลานของแปะง้วน แซ่เตียว อากงของคุณติม ผู้ริเริ่มความสุขรสอร่อยที่คลายร้อนได้ ณ เมืองลูกน้ำเค็มแห่งนี้

และแน่นอนว่า ร้านที่เปลี่ยนมือการบริหารมาถึง 3 รุ่น ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา หน้าร้านของเมฆไอศครีมในปัจจุบันนั้นชวนให้หยิบสมาร์ทโฟนมาถ่ายรูปมาก ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราเห็นลูกค้าที่แน่นร้านของคุณติม ปฏิบัติพอ ๆ กับการละเลียดไอศกรีมหลากรสอยู่ในร้าน
“จุดเด่นของเมฆไอศครีม คือไอศกรีมสูตรลับเฉพาะ ที่สืบทอดกันมากว่า 50 ปีครับ และเราสร้างสรรค์เป็นรสชาติไทย ๆ ที่หาทานไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน ซึ่งเราจะถนัดเรื่องทำไอศกรีมรสชาติไทยจากน้ำกะทิคั้นสด ใช้วัตถุดิบจากแหล่งในไทยเลย แล้วร้านนี้เป็นส่วนผสมจากคน 3 รุ่น มันเต็มไปด้วยสูตรลับ ความใส่ใจ ของคนรุ่นเก่า แต่ถูกพัฒนาให้ดูทันสมัย เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ไป พร้อม ๆ กัน เพื่อให้สูตรของเรายังคงตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มครับ”
นี่คือคำบอกเล่าของชายหนุ่มผู้ง่วนกับการตักไอศกรีมรสกะทิอบควันเทียน, กล้วยตาก, ข้าวหลามหนองมน, กาแฟโครงการหลวง, โกโก้ชุมพร, ทุเรียน, มะม่วง และอีกสารพัดรสที่เรียงรายอยู่ในตู้แห่งความสุขนั้น
เมื่อถูกถามถึงความยากในการรับไม้ต่อเป็นรุ่นที่ 3 คุณติมเล่าว่ามันเกิดขึ้นจากความขัดใจ ว่าทำไมแบรนด์ไม่ออกแบบให้สวยขึ้น ปรับปรุงร้านให้ดูดีขึ้น หรือพัฒนารสชาติต่าง ๆ ที่ยังไม่มีในท้องตลาด และนั่นทำให้คุณติมตัดสินใจลุยต่อในชื่อเมฆไอศครีม สานต่อตำนานในปีที่ 56 ต่อเนื่องมา

แต่ความยากของการ “เกือบจะ” รีแบรนด์ร้านอีกอย่าง คือการปรับความเข้าใจกับผู้เป็นแม่ คุณติมเผยว่า “ส่วนนี้ต้องค่อย ๆ ปรับปรุงจากสิ่งที่พอเริ่มจะทำได้ก่อน เพราะรุ่นแม่จะยังไม่เห็นถึงไอเดียเรา และอาจจะไม่เข้าใจ อีกทั้งเราก็ยังไม่มีประสบการณ์จริง ๆ ดังนั้นต้องเริ่มจากปรับในสิ่งที่ไม่ต้องใช้ทุนเยอะ หรือไม่ใช้ทุนเลย ให้เขาค่อย ๆ เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี” ซึ่งถ้าดูจากออเดอร์และลูกค้าที่แน่นร้าน ต้องบอกว่ามาถูกทางจริง ๆ

ถึงตรงนี้ เราคงต้องปล่อยให้คุณติมรับลูกค้าที่หนาแน่นพอ ๆ กับรสชาติไอศกรีมของร้านก่อน รวมถึงหลบฉากมาทำตัวเป็นนักชิมกับเขาเสียบ้าง แน่นอนว่ารสเอกที่ใครก็ต้องสั่งคือกะทิสูตร 50 ปี ที่อร่อยจนอยากให้อยู่ต่อไปเป็นร้อย ๆ ปีเลยจริง ๆ
นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้ชิมเกือบครบทุกรส เพราะคุณติมเองยังหันมาตักให้ชิมเป็นพัก ๆ ทั้งที่ลูกค้าก็ไม่น้อย ส่วนตัวชอบรสข้าวหลามหนองมนสุด ๆ ด้วยรสสัมผัสที่ดี หอม มีข้าวเหนียวในเนื้อไอศกรีม ทำให้กินเพลินมาก ๆ ที่ชอบใจใหญ่คือทางร้านยังมีรสพิเศษอย่างมะยงชิด ที่ใครเป็นมะยงชิดเลิฟเวอร์ คร้านจะยกทั้งตู้กลับบ้านเป็นแน่

ซึ่งถ้าจะให้สรุปคร่าว ๆ ต้องบอกว่าไอศกรีมรสที่เบสเป็นกะทิหรือนม จะเข้มข้น หวานหอม และรสชาติโดดเด่นในตัวเองทุกรส ส่วนไอศครีมที่เบสเป็นผลไม้ ก็สดชื่นสุด ๆ ไม่แปลกใจที่เมื่อเราสังเกตลูกค้าแต่ละท่านที่เข้ามาในร้าน จะสั่งคละ ๆ กันไป เพราะจะได้ลิ้มรสชาติแห่งความสุขให้ครบทุก ๆ รสนั่นเอง

เมื่อลูกค้าเริ่มซาลง ในขณะที่ชักภาพเพื่อมาประกอบบทความนี้ เราสังเกตเห็นคำว่า “Studios” บนป้ายชื่อร้าน จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย คุณติมตอบเราว่า เขาได้ไอเดียจาก Marvel Studios สตูดิโอสร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ระดับฮอลลีวู้ด เพราะเขาเปรียบการออกไอศกรีมรสใหม่ ๆ ดั่งการที่มาร์เวลมีหนังฮีโร่มาเสิร์ฟให้คนดูอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

ส่วนแผนต่อไปของร้าน คุณติมมีแพลนจะเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ เช่นกัน เพื่อขยายฐานลูกค้า จากปัจจุบันที่มีเพียงหน้าร้านที่นี่ และการจับมือเป็น OEM เพราะส่วนตัวทายาทก๋งง้วนคนนี้ ตั้งใจจะให้เมฆไอศครีม เป็นแบรนด์ไอศกรีมไทยอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคให้ได้
สุดท้ายก่อนที่เราจะให้คุณติมรับลูกค้าครอบครัวใหญ่ 1 บ้านต่อ เราขอให้เขาเผยเคล็ดลับที่อยากส่งต่อของการเป็นทายาทธุรกิจของครอบครัว คุณติมตอบสูตรเด็ดที่ไม่ยากจะทำ แต่ยากที่จะรักษาไว้ว่า “จริง ๆ แล้วส่วนใหญ่เราเติบโตมาจากการไม่หยุดพัฒนาครับ เราต้องหาความรู้ และต้องเข้าใจว่าความล้มเหลว มันเป็นกระบวนการที่ต้องเจอ และต้องก้าวผ่านเพื่อที่จะเติบโตต่อ และเราก็ลองผิดลองถูก ทำสิ่งผิดพลาดมามาก กว่าจะมาเป็นทุกวันนี้ครับ”

คำตอบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของร้าน ว่าคุณติมพัฒนาตัวเอง พัฒนาสูตรไอศกรีมต่อเนื่อง เพื่อจะก้าไปสู่จุดที่ใจหวังให้ได้ และเมื่อมองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของแปะง้วน แซ่เตียว ต้องบอกว่าร้านไอศกรีมร้านนี้ ได้ส่งต่อความสุขแสนเย็นชื่นใจให้แก่ชาวชลบุรีมาหลายเจนเนอเรชั่นจริง ๆ

ก่อนออกจากร้านเพื่อเดินทางกันต่อ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องสั่งไอศกรีมเพิ่ม เพราะนอกจากอากาศที่ร้อนเกินต้านแล้วนั้น เรื่องราวของความสุข ความมุ่งมั่น ความตั้งใจจากคุณติม มันอัดแน่นอยู่ในไอศกรีมทุกสกู๊ป จนชวนให้เราอยากกินต่อเรื่อย ๆ นั่นเอง